
ลีอี-คยอง เจอข้อกล่าวหา 'แฉ' ฝ่ายเดียว สวนกลับ 'ข้อมูลเท็จ' เตรียมฟ้องร้อง!
ดราม่าร้อนแรงรอบตัวนักแสดงหนุ่ม ลีอี-คยอง (Lee Yi-kyung) พัฒนาจากแค่การถูกแฉ กลายเป็นสงครามการโต้แย้งความจริง ฝ่ายนักแสดงออกมายืนยันว่า "เป็นข้อมูลเท็จอย่างชัดเจน" พร้อมเดินหน้าใช้กฎหมายจัดการ ในขณะที่ฝ่ายที่กล่าวหาก็สวนกลับด้วยการโพสต์วิดีโอและคำชี้แจงเพิ่มเติมออกมาเป็นระลอก
จุดเริ่มต้นของเรื่องนี้มาจากโพสต์ในชุมชนออนไลน์เมื่อวันที่ 20 มีนาคม ที่ใช้หัวข้อว่า "เปิดเผยตัวตนที่แท้จริงของ ลีอี-คยอง" ผู้โพสต์อ้างว่าตนเองได้คุยกับนักแสดงหนุ่มผ่านแชท KakaoTalk พร้อมแนบภาพหน้าจอการสนทนา ซึ่งมีเนื้อหาเกี่ยวกับการพูดถึงร่างกายและการขอรูปภาพที่ค่อนข้างเปิดเผย แต่ยังไม่มีการยืนยันตัวตนที่แท้จริงของผู้ที่ปรากฏในแชทดังกล่าว
ต้นสังกัดของ ลีอี-คยอง คือ Sangyoung ENT ได้ออกมาปฏิเสธทันที โดยระบุว่า "ข้อมูลที่ถูกเผยแพร่และส่งต่อในชุมชนออนไลน์และโซเชียลมีเดียช่วงที่ผ่านมาเป็นข้อมูลเท็จ และเรากำลังเตรียมดำเนินการทางกฎหมายต่อความเสียหายที่เกิดจากข่าวลือที่เป็นอันตราย" นอกจากนี้ยังเสริมว่า "เราจะดำเนินการทุกอย่างเพื่อประเมินความเสียหายจากการเผยแพร่ข้อมูลเท็จ"
หลังจากนั้น ผู้โพสต์ A 씨 ก็ได้ออกมาอ้างว่า "ไม่เคยเรียกเงิน และโพสต์นี้เพียงเพราะหวังว่าผู้หญิงคนอื่น ๆ จะไม่เจอเหตุการณ์แบบเดียวกัน" เมื่อบางส่วนตั้งข้อสงสัยว่ามีการเรียกเงินหรือไม่ A 씨 ได้ชี้แจงเพิ่มเติมว่า "เคยมีการสอบถามขอยืมเงิน 500,000 วอน เมื่อปีที่แล้ว แต่ไม่เคยได้รับเงินจริง" พร้อมระบุว่าตนเองเป็น "คนเยอรมันที่ภาษาเกาหลีไม่สมบูรณ์" และ "ไม่ใช่พวกต้มตุ๋น ไม่คิดว่าเรื่องจะบานปลายขนาดนี้"
ต่อมา A 씨 ได้เพิ่มความร้อนแรงให้กับสถานการณ์ด้วยการโพสต์ "หลักฐาน" เพิ่มเติม โดยในโพสต์นั้นมีวิดีโอการเลื่อนหน้าจอ SNS บัญชีอย่างเป็นทางการของ ลีอี-คยอง ผู้โพสต์อ้างว่า "นี่คือวิดีโอหน้าจอที่ทุกคนขอให้ดู เป็นบัญชีจริง" อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีการยืนยันว่าวิดีโอดังกล่าวสามารถพิสูจน์การใช้งานบัญชีจริงของผู้เป็นเจ้าของได้หรือไม่ ทั้งเรื่องการจับภาพ ตัดต่อ หรือบริบทของการสนทนา ทั้งหมดล้วนยังต้องการการตรวจสอบ
ผู้เชี่ยวชาญชี้ให้เห็นถึงความสำคัญของการ "ตรวจสอบความจริงของข้อมูล" ท่ามกลางการแพร่กระจายอย่างรวดเร็วของการแฉเรื่องส่วนตัวผ่าน SNS เนื่องจากภาพหน้าจอหรือวิดีโอสามารถแก้ไขหรือปลอมแปลงได้ง่าย และไม่สามารถสรุปความจริงได้หากปราศจากการยืนยันตัวตนของผู้ส่งและการวิเคราะห์ข้อมูล Metadata
ต้นสังกัดได้ประกาศว่าจะดำเนินการทางกฎหมายทั้งต่อผู้เขียนโพสต์และผู้ที่เผยแพร่เนื้อหาดังกล่าว โดยระบุว่า "ทั้งการเขียนและการเผยแพร่โดยไม่ยั้งคิด ล้วนเข้าข่ายต้องถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย" และ "เราจะพยายามอย่างเต็มที่เพื่อปกป้องศิลปินของเรา ผ่านการแจ้งเบาะแสจากแฟน ๆ และการตรวจสอบด้วยตนเอง"
ก่อนที่จะมีความชัดเจนเกี่ยวกับข้อเท็จจริง จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องระงับการตัดสินหรือความเชื่อโดยปราศจากการไตร่ตรอง การกล่าวหาที่ไม่ได้รับการยืนยันและการใส่ร้ายป้ายสีที่ตามมา อาจนำไปสู่การละเมิดสิทธิมนุษยชนรูปแบบอื่นได้
ชาวเน็ตเกาหลีส่วนใหญ่แสดงความเห็นว่า ควรจะรอผลการพิสูจน์ก่อนที่จะตัดสิน และบางส่วนก็ตั้งข้อสังเกตเกี่ยวกับเจตนาของผู้โพสต์ที่ดูเหมือนต้องการสร้างความเสียหายให้กับนักแสดง โดยแสดงความคิดเห็นว่า "รอความจริงปรากฏ" และ "ถ้าเป็นเรื่องจริงก็ต้องรับผิดชอบ"