
แดดดี้ แยงกี้ ปลื้ม! ขอบคุณ HYBE และ บังชีฮยอก สานฝัน K-Pop x ละติน
ซูเปอร์สตาร์เพลงเรเกตอน 'แดดดี้ แยงกี้' (Daddy Yankee) ได้แสดงความขอบคุณต่อ HYBE และประธานบังชีฮยอก ในงาน Billboard Latin Music Week พร้อมเผยถึงการทำงานร่วมกันของ K-Pop และเพลงลาติน ที่สร้างสรรค์ปรากฏการณ์ใหม่
แดดดี้ แยงกี้ ได้เข้าร่วมในเซสชัน 'Superstar Q&A' ของงาน Billboard Latin Music Week ที่จัดขึ้น ณ The Fillmore ไมอามี สหรัฐอเมริกา งานนี้ซึ่งจัดขึ้นเป็นครั้งที่ 36 ถือเป็นงานใหญ่ที่สุดของอุตสาหกรรมเพลงลาตินทั่วโลก โดยมีผู้เกี่ยวข้องในวงการและศิลปินระดับโลกมาร่วมหารือเกี่ยวกับปัจจุบันและอนาคตของวงการเพลง
ในการพูดคุยกับ เลย์ลา โคโบ (Leila Cobo) หัวหน้าเจ้าหน้าที่ฝ่ายเนื้อหาของ Billboard Latin แดดดี้ แยงกี้ ได้พูดคุยถึงการร่วมงานกับ HYBE และอัลบั้มเต็มชุดล่าสุด 'LAMENTO EN BAILE' ที่ปล่อยออกมาเมื่อวันที่ 17 ที่ผ่านมา
เมื่อถูกถามถึงความรู้สึกเกี่ยวกับการเซ็นสัญญากับ HYBE เขาตอบว่า 'สมบูรณ์แบบ' พร้อมกล่าวว่า "อัลบั้มนี้สำเร็จได้เพราะทีม HYBE, ไอแซค ลี (Isaac Lee) ประธาน HYBE America และประธานบังชีฮยอก รวมถึงหลายๆ คนที่เชื่อมั่นและสนับสนุนโปรเจกต์ของผม" เขายังอธิบายเพิ่มเติมเกี่ยวกับอัลบั้มใหม่ 'LAMENTO EN BAILE' และเพลงไตเติล 'El Toque' ว่า "เป็นการผสมผสานความงามของ K-Pop เข้ากับจังหวะลาติน เพื่อสร้างสรรค์ประสบการณ์ใหม่"
มิวสิกวิดีโอเพลง 'El Toque' ถ่ายทำที่ฉากจำลองประวัติศาสตร์มุนกยองแซแจ (Mungyeongsaejae Open Set) ในจังหวัดคย็องซังบุกโด ประเทศเกาหลีใต้ โดยนำเสนอความงดงามของพระราชวังในยุคโชซอน ผสานกับพลังอันเป็นเอกลักษณ์ของแดดดี้ แยงกี้ ได้ดึงดูดความสนใจของแฟนๆ ทั่วโลก
แดดดี้ แยงกี้ หวนรำลึกถึงช่วงเวลาถ่ายทำว่า "เป็นประเทศที่สวยงามจริงๆ ผู้คนอบอุ่นมาก ถ้ามีโอกาส ผมอยากไปอีกสักร้อยครั้ง" เขากล่าว พร้อมแสดงความรักที่มีต่อวัฒนธรรมเกาหลีอย่างชัดเจน และกล่าวเสริมว่า "ผมชอบสุนทรียศาสตร์ของมิวสิกวิดีโอ K-Pop มาตลอด เชื่อว่าการผสมผสานอารมณ์เหล่านั้นกับพลังลาติน จะเป็นการรวมกันที่ยอดเยี่ยม" แสดงให้เห็นว่าอัลบั้มนี้ที่ปล่อยออกมาจากการร่วมมือกับ HYBE ไม่ใช่แค่ผลงานเพลง แต่ยังเป็นสัญลักษณ์ของการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมและศิลปะ
อัลบั้ม 'LAMENTO EN BAILE' ที่มีเพลงรวม 19 เพลง รวมถึง 'El Toque' ยังคงเน้นเสียงที่สดใสและเต็มไปด้วยพลัง แม้จะถูกสร้างสรรค์ขึ้นในช่วงเวลาที่ยากลำบากที่สุดในชีวิตของแดดดี้ แยงกี้ ทำให้ผลงานนี้ได้รับการยกย่องว่าโดดเด่นด้วยการพลิกฟื้นความคิดสร้างสรรค์และศิลปะของเขา โดยการเปลี่ยนความเจ็บปวดให้เป็นจังหวะ และการไตร่ตรองให้กลายเป็นความหวัง
แดดดี้ แยงกี้ ผู้เดบิวต์ในปี 1995 และได้รับความนิยมไปทั่วโลกด้วยจังหวะเรเกตอน ได้เป็นผู้นำในการผลักดันเพลงลาตินสู่ระดับโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเพลง 'Despacito' ที่ร่วมงานกับ ลุยส์ ฟอนซี (Luis Fonsi) ในปี 2017 ซึ่งติดอันดับ 1 ชาร์ต Billboard Hot 100 นานถึง 16 สัปดาห์ ถือเป็นการสร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ให้กับลาตินป๊อป หลังจากประกาศอำลาวงการในปี 2023 เขาก็ได้กลับมาพบกับแฟนๆ อีกครั้งผ่านการเซ็นสัญญากับ HYBE Latin America ซึ่งเป็นการเปิดศักราชใหม่แห่งความร่วมมือทางดนตรีระดับโลก ที่เชื่อมโยงเกาหลีและลาตินอเมริกา
ภายใต้กลยุทธ์ 'Multi-home, multi-genre' ของประธานบังชีฮยอก HYBE กำลังขยายอิทธิพลด้วยการนำระบบการผลิต K-Pop ไปสู่ตลาดเพลงทั่วโลก หลังจากก่อตั้ง HYBE Latin America ในปี 2023 HYBE ได้เข้าซื้อค่ายเพลงท้องถิ่น Exile Music และกำลังร่วมงานกับศิลปินท้องถิ่นมากมาย รวมถึงแดดดี้ แยงกี้
HYBE ยังคงเร่งผลักดันโปรเจกต์พัฒนาศิลปินหน้าใหม่ โดยเมื่อวันที่ 21 ตุลาคม บอยแบนด์ 'SANTOS BRAVOS' ได้เปิดตัวอย่างอลังการ และในเดือนสิงหาคม รายการออดิชันวงดนตรี 'Pase a la Fama' ได้ค้นพบศิลปินหน้าใหม่ที่มีศักยภาพ เช่น วงที่ชนะเลิศ Musza
ชาวเน็ตเกาหลีต่างตื่นเต้นกับความร่วมมือครั้งนี้ โดยแสดงความคิดเห็นว่า "การผสมผสาน K-Pop กับลาติน ฟังแล้วรู้สึกสดใหม่มาก!", "ภูมิใจที่วัฒนธรรมของเราได้ไปสู่ระดับโลก", "รอคอยที่จะได้ฟังผลงานใหม่ๆ ของแดดดี้ แยงกี้ กับ HYBE"