จินยอง (Jinyoung) เผยความรู้สึกประกบคู่ จอนยอบิน (Jeon Yeo-been) ใน 'Woman 'Busemi' ฮา! สารภาพใจเต้นแรงจนนาฬิกาส่งสัญญาณเตือน
นักแสดงหนุ่ม จินยอง (Jinyoung) ได้ออกมาเปิดเผยความรู้สึกหลังได้ร่วมงานกับนักแสดงสาว จอนยอบิน (Jeon Yeo-been) ในซีรีส์เรื่อง 'Woman 'Busemi' ทางช่อง ENA ซึ่งออกอากาศไปไม่นานมานี้
'Woman 'Busemi' เป็นซีรีส์แนวอาชญากรรมโรแมนติก เล่าเรื่องราวของอดีตนักกีฬาสาวที่มาจากครอบครัวยากจน เธอต้องปลอมตัวเป็นคนอื่นเพื่อแต่งงานกับเศรษฐีป่วยใกล้ตาย เพื่อหวังจะได้มรดกก้อนโต แต่กลับต้องเผชิญหน้ากับการเอาชีวิตรอดจากการตามล่าของผู้ที่หวังในมรดก โดยเธอมีเวลาเพียง 3 เดือนเท่านั้น
ในเรื่อง จินยอง รับบทเป็น ชอนดงมิน พ่อเลี้ยงเดี่ยวที่ทำสวนสตรอว์เบอร์รีและเลี้ยงดูลูกชายเพียงลำพัง เขาได้พบกับ คิมยองรัน (รับบทโดย จอนยอบิน) ที่มาพร้อมกับตัวตนปลอมเป็น 'บูเซมิ' และได้สานต่อความสัมพันธ์ในแบบโรแมนติก
จินยองเล่าถึงกระแสวิจารณ์เกี่ยวกับพัฒนาการความสัมพันธ์ของตัวละคร ชอนดงมิน ว่า "ตอนแรกผมก็คิดว่าทำไมดงมินถึงรักเธอเร็วขนาดนี้ แต่จริงๆ แล้วเขาเริ่มจากการสงสัยเธออย่างมากก่อนครับ" เขากล่าวเสริมว่า "มีทั้งคนที่ชอบและไม่ชอบในส่วนนี้ บางคนก็บอกว่าทำไมถึงเอาแต่สงสัยและพูดจาไม่ดีใส่ แต่ผมคิดว่าในสถานการณ์แบบนั้น มันเป็นเรื่องที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ครับ เพราะมีอดีตครูพี่เลี้ยงถึง 5 คนที่เคยมาดูแลลูกผมแล้วทิ้งไป สร้างบาดแผลให้กับเด็กๆ ไว้มาก ดงมินเลยต้องระแวดระวังเป็นพิเศษ ประกอบกับผมเองก็สอนกีฬาที่โรงเรียนของลูกชาย ทำให้ผมยิ่งต้องใส่ใจและเป็นห่วงลูกมากขึ้นไปอีก" "หากเป็นสถานการณ์จริง ผมก็คงต้องระแวงเหมือนกันครับ คนที่มีโปรไฟล์ดีขนาดนี้ มาที่นี่โดยไม่จำเป็น ผมคงต้องสงสัยไว้ก่อน" จินยองกล่าวติดตลก
เขาเล่าต่อว่า "ผมรู้สึกเห็นอกเห็นใจตัวละครนี้มาก ตอนแรกเธออาจจะดูน่ากลัว หยิ่งยะโส และแข็งแกร่ง แต่เมื่อได้รู้เรื่องราวเบื้องหลัง ผมกลับมองเห็นความอ่อนแอและซ่อนความเศร้าและความเจ็บปวดไว้มากมาย การที่เธอพยายามต่อสู้และใช้ชีวิตอย่างเต็มที่ในสถานการณ์เช่นนี้ ทำให้ผมรู้สึกทึ่งในความเป็นมนุษย์ของเธอ ผมเลยคิดว่า ดงมินน่าจะตกหลุมรักเธอได้โดยไม่ต้องคำนึงถึงเงื่อนไขอื่นๆ เพราะก่อนหน้านี้ภรรยาเก่าของดงมินก็จากไปเพราะไปชอบคนอื่น ทำให้ผมคิดว่านี่อาจจะเป็นความรักที่เกิดขึ้นจากความเป็นมนุษย์ธรรมดาๆ ได้" จินยองกล่าว
สำหรับการถ่ายทอดบทบาท ชอนดงมิน นักแสดงหนุ่มเผยว่าเขาพยายามแสดงออกอย่างเป็นธรรมชาติที่สุด "ผมคิดว่าความรักของดงมินไม่ได้มีที่มาที่ไปซับซ้อน แต่ค่อยๆ ก่อตัวขึ้นเรื่อยๆ จนกลายเป็นความรักที่บริสุทธิ์ โดยไม่มีเงื่อนไขหรือความต้องการอะไร ผมจึงคิดว่าการแสดงออกต้องเรียบง่ายที่สุด" เขากล่าว
ยิ่งไปกว่านั้น จินยองยังได้เล่าถึงเหตุการณ์สุดฮาขณะถ่ายทำฉากที่ต้องใกล้ชิดกับ จอนยอบิน ซึ่งนาฬิกาอัจฉริยะของเขาได้ส่งเสียงเตือนวัดอัตราการเต้นของหัวใจ! "ตอนถ่ายทำฉากในตอนที่ 4 ที่ผมต้องแสดงอาการเขินอายตอนที่เธอ (จอนยอบิน) กำลังจะปิดโน้ตบุ๊ก แล้วเกิดการสัมผัสกันขึ้น ผมใส่ Galaxy Watch อยู่ครับ แล้วจู่ๆ นาฬิกาก็มีสัญญาณเตือนดังขึ้นมา ผมตกใจมาก นึกว่าเป็นสถานการณ์ฉุกเฉิน พอเช็คดูก็เห็นขึ้นว่า 'EMERGENCY' พอมาทราบทีหลังถึงได้รู้ว่ามันเป็นฟังก์ชันตรวจจับภาวะผิดปกติของอัตราการเต้นของหัวใจ ที่สามารถเรียกหน่วยกู้ภัยได้หากอัตราการเต้นของหัวใจสูงผิดปกติ" เขากล่าว
จินยองเสริมว่า "ผมไม่เคยรู้ฟังก์ชันนี้มาก่อนเลยครับ ตกใจมากและรู้สึกขายหน้ามากๆ ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าทำไมมันถึงดังขึ้นมา อาจจะเป็นเพราะฉากนั้นมันทำให้ผมรู้สึกตื่นเต้นนิดหน่อย จอนยอบินเข้ามาใกล้มากจนเกือบจะเกิดการสัมผัสกันอย่างใกล้ชิด ผมคงเผลอคิดไปถึงตอนนั้น เลยอาจจะทำให้หัวใจเต้นแรงขึ้นมาโดยไม่รู้ตัวครับ อาจจะเพราะผมรู้สึกตื่นเต้นจริงๆ ในตอนนั้นก็ได้ครับ" เขาตอบพร้อมรอยยิ้ม
ชาวเน็ตเกาหลีต่างแสดงความคิดเห็นอย่างหลากหลายเกี่ยวกับปฏิกิริยาของ ชอนดงมิน ที่ดูเหมือนจะสงสัยในตัว บูเซมิ มากเกินไปในตอนแรก บ้างก็เข้าใจถึงเหตุผลเบื้องหลังที่ตัวละครต้องระมัดระวัง บ้างก็รู้สึกว่าพัฒนาการความสัมพันธ์ยังรวดเร็วเกินไป แต่โดยรวมแล้วก็ชื่นชมการแสดงที่เข้าถึงบทบาทของ จินยอง และความสัมพันธ์ที่ค่อยๆ พัฒนากับ จอนยอบิน