
นักแสดงรุ่นใหญ่ "พัคจุงฮุน" เปิดตัวในฐานะนักเขียน! เผยชีวิตหลังกล้องในหนังสือ "อย่าเสียใจ"
วงการภาพยนตร์เกาหลีต้องจับตา! "พัคจุงฮุน" นักแสดงมากฝีมือที่ได้รับการยอมรับในฐานะ "สตาร์แห่งชุงมูโร" ได้ก้าวเข้าสู่บทบาทใหม่ในฐานะนักเขียน ด้วยการเปิดตัวหนังสือเอสเซ่ "อย่าเสียใจ" (후회하지마) หนังสือเล่มนี้ถ่ายทอดเรื่องราวชีวิตของเขาอย่างตรงไปตรงมา ทั้งความสุขและความเจ็บปวดตลอดเส้นทางสู่การเป็น "นักแสดงแห่งชาติ"
ในการให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน ณ ศูนย์ศิลปะจองดง 1928 ในกรุงโซล เมื่อเร็วๆ นี้ พัคจุงฮุน เผยความรู้สึกตื่นเต้นกับการเปิดตัวครั้งนี้ว่า "รู้สึกตื่นเต้นเหมือนตอนเดบิวต์ปี 1986 เลยครับ" แต่ก็กล่าวเสริมอย่างถ่อมตนว่า "รู้สึกเขินกับคำว่านักเขียนครับ ผมจะเขียนหนังสืออีกเล่มไหมในชีวิตที่เหลือ? คงไม่หรอกครับ" พร้อมรอยยิ้มอันเป็นเอกลักษณ์
หนังสือ "อย่าเสียใจ" เป็นการรวบรวมเรื่องราวชีวิตการทำงานในวงการบันเทิงของพัคจุงฮุน นับตั้งแต่เขาเดบิวต์จากภาพยนตร์เรื่อง "กัมโบ" (깜보) ในปี 1986 ตั้งแต่ความฝันในวัยเด็กที่จะเป็นนักแสดง ไปจนถึงผลงานสร้างชื่อมากมาย เช่น "รักของฉัน เจ้าสาวของฉัน" (나의 사랑 나의 신부), "ฆ่าเมีย" (마누라 죽이기), "ฮวังซานบอล" (황산벌) และภาพยนตร์ชุด "สองตำรวจ" (투캅스) ล้วนถูกถ่ายทอดออกมาเป็นตัวอักษร
แม้ว่าทางสำนักพิมพ์จะระบุว่าเขาเขียนหนังสือเล่มนี้ที่ "เชิงเขาแทกวอลลีออง" (대관령 기슭) แต่พัคจุงฮุนก็เฉลยพร้อมเสียงหัวเราะว่า "จริงๆ แล้วผมเขียนที่ยงพยองรีสอร์ทครับ" เขาอธิบายว่า "บ้านผมอยู่ในรีสอร์ทเลยครับ พอเปิดประตูหลังบ้านก็จะเห็นภูเขาอยู่ใกล้แค่เอื้อม แต่ถ้าเขียนว่า 'ยงพยองรีสอร์ท' มันก็ดูแปลกๆ หน่อย ทางสำนักพิมพ์เลยเติมคำว่า 'เชิงเขา' เข้าไป ทำให้ผมดูเหมือนคนช่างครุ่นคิดเลยครับ ฮ่าๆ"
เสน่ห์ที่ทำให้คนทั่วประเทศเกาหลีรักพัคจุงฮุน ส่วนหนึ่งก็มาจากความจริงใจและเป็นธรรมชาติของเขา เขาเขียนหนังสือเล่มนี้ด้วยใจที่เปิดเผย เช่นเดียวกับการใช้ชีวิต ราวกับว่าผู้อ่านกำลังแอบอ่านบันทึกส่วนตัวของพัคจุงฮุน ทำให้การอ่านลื่นไหลไปโดยธรรมชาติ เมื่ออ่านเรื่องราวหนึ่งจบ ก็อยากจะพลิกไปอ่านเรื่องต่อไปทันที คุณจะได้รู้จักชีวิตที่แท้จริงของพัคจุงฮุน ผู้เรียกตัวเองว่า "คนโชคดี" การที่เขาเขียนถึงคดีเสพกัญชาในปี 1994 ซึ่งเป็นเรื่องอื้อฉาวในสังคม ก็เป็นส่วนหนึ่งของความตั้งใจนี้
"ผมคิดว่าถ้าเล่าเรื่องของผมไปเรื่อยๆ โดยไม่มีเรื่องที่ไม่ดีบ้าง คนคงไม่เชื่อครับ" พัคจุงฮุนกล่าว "ทั้งปัจจุบัน อนาคต และอดีต ล้วนเป็นของผมทั้งสิ้น ไม่ว่าจะทำดีหรือไม่ดี มันก็คือสิ่งที่ผมได้ทำไปแล้ว" เขาเปรียบเทียบว่า "เหมือนซีเมนต์ที่ต้องมีทั้งกรวดและทรายผสมกันถึงจะแข็งแกร่ง การเอาชนะความผิดพลาดและยอมรับมันเป็นสิ่งสำคัญครับ กรวดและทรายทำหน้าที่ให้ซีเมนต์แข็งแกร่งขึ้นมาได้"
แน่นอนว่าเรื่องราวของ "อันซองกิ" คู่หูตลอดกาลของพัคจุงฮุน ก็เป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ในหนังสือเล่มนี้ มีตอนหนึ่งที่เขียนถึงเขาโดยใช้หัวข้อย่อยว่า "อันซองกิ ดาวของผม" พัคจุงฮุนและอันซองกิเคยร่วมงานกันในภาพยนตร์อย่าง "ชิลซูกับมันซู" (칠수와 만수), "สองตำรวจ" (투캅스), "ไม่เห็นใจ ไม่ว่าอย่างไร" (인정사정 볼 것 없다) และ "ดาราติดไมค์" (라디오 스타) ด้วยการแสดงที่ยอดเยี่ยม
"ผมคิดว่าถ้าไม่มีความสัมพันธ์และความเป็นเพื่อนส่วนตัวของเราสองคน ภาพยนตร์เรื่อง 'ดาราติดไมค์' ผลงานชิ้นสุดท้ายของเรา อาจจะออกมาไม่ได้" พัคจุงฮุนกล่าวถึงอันซองกิ "รุ่นพี่อันซองกิเป็นทั้งอาจารย์ที่ผมเคารพ เพื่อนสนิท และเหมือนพ่อคนหนึ่งครับ"
อย่างไรก็ตาม พัคจุงฮุนเผยว่าเขาไม่ได้พบกับ อันซองกิ ซึ่งกำลังต่อสู้กับมะเร็งเม็ดเลือดขาวมานานกว่า 1 ปีแล้ว "เรื่องสุขภาพของรุ่นพี่อันซองกิ" พัคจุงฮุนกล่าวอย่างระมัดระวัง "มันไม่ใช่เรื่องที่จะปิดบังได้" พร้อมเผยว่า "อาการค่อนข้างหนักครับ" เขากล่าวต่อว่า "ตอนนี้ท่านไม่สะดวกที่จะรับโทรศัพท์หรือข้อความส่วนตัว ผมจึงคอยสอบถามอาการจากครอบครัว" แม้จะพูดอย่างใจเย็น แต่เขาก็กล่าวด้วยความเสียใจว่า "ผมรู้สึกเศร้าใจมากจริงๆ"
ชาวเน็ตเกาหลีต่างแสดงความยินดีกับการเปิดตัวในฐานะนักเขียนของพัคจุงฮุน หลายคนชื่นชมในความตรงไปตรงมาและเป็นธรรมชาติของเขา "รออ่านเลยค่ะ! ต้องเป็นหนังสือที่อบอุ่นหัวใจแน่ๆ" บางส่วนแสดงความห่วงใยต่อ อันซองกิ และหวังว่าเขาจะหายป่วยในเร็ววัน