พัคจินยอง (JYP) เปิดใจรับตำแหน่งประธานร่วมคณะกรรมการวัฒนธรรมและการแลกเปลี่ยนระดับประธานาธิบดี ยันไม่ฝักใฝ่การเมือง
พัคจินยอง หรือที่รู้จักในนาม JYP โปรดิวเซอร์แถวหน้าแห่ง JYP Entertainment ได้เปิดเผยถึงเบื้องหลังการตัดสินใจรับตำแหน่งประธานร่วมคณะกรรมการส่งเสริมวัฒนธรรมและการแลกเปลี่ยนระดับประธานาธิบดี
เจ้าตัวเผยว่า ในตอนแรกเขาได้ปฏิเสธข้อเสนอดังกล่าวมานานถึงสามเดือน แต่สุดท้ายก็ตัดสินใจตอบรับ
“มีหลายเหตุผลที่ทำให้ผมปฏิเสธไปในตอนแรก แต่ทางทำเนียบประธานาธิบดีก็ได้ชี้แจงและแก้ไขข้อกังวลต่างๆ จนผมไม่มีเหตุผลที่จะปฏิเสธอีกต่อไป” พัคจินยองกล่าวระหว่างออกรายการ MBC ‘Radio Star’
เขายังเสริมอีกว่า “ผมต้องการทำในสิ่งที่ในฐานะบริษัทเราไม่สามารถทำได้ เพื่ออุตสาหกรรม K-pop” ตำแหน่งประธานร่วมนี้เป็นตำแหน่งที่ไม่ได้รับค่าตอบแทน
พัคจินยองยังได้กล่าวถึงประเด็นทางการเมือง ยืนยันว่าเขาไม่เคยคิดที่จะเข้าข้างฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง
“ระบบทุนนิยมจะเอื้อประโยชน์ต่อคนรวยมากเกินไปหากรัฐไม่เข้ามาแทรกแซง จึงจำเป็นต้องมีนโยบายก้าวหน้าที่ปกป้องคนธรรมด้าที่ไม่มีอำนาจ แต่หากปกป้องมากเกินไป นักลงทุนอาจย้ายไปประเทศอื่น ดังนั้นนโยบายอนุรักษ์นิยมก็มีความจำเป็นเช่นกัน”
“ผมไม่มีความตั้งใจที่จะเข้าข้างฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง ผมคือพัคจินยอง ผู้ที่ไม่ใช่ทั้งฝ่ายก้าวหน้าหรืออนุรักษ์นิยม” เขากล่าว
พัคจินยองย้ำว่า “ผมจะทำงานเพื่อระบบนิเวศ K-pop โดยไม่คำนึงถึงผลกำไรของบริษัท” ซึ่งในคณะกรรมการดังกล่าวยังมีผู้บริหารจาก 4 ค่ายใหญ่ร่วมอยู่ด้วย ได้แก่ จางชอลฮยอก จาก SM, อีแจซัง จาก HYBE, ยังมินซอก จาก YG และ จองอุค จาก JYP
นอกจากนี้ พัคจินยองยังเปิดเผยความฝันที่จะปั้นลูกสาวทั้งสองคน ซึ่งมีอายุ 5-6 ขวบ ให้เดบิวต์เป็นเกิร์ลกรุ๊ป
“ลูกสาวของผมได้รับ ‘DNA นักแสดง’ ของผมไปเต็มๆ คนโตเต้นเก่งมาก แค่ขยับนิดเดียวผมก็มองเห็นแววแล้ว ส่วนคนเล็กก็ร้องเพลงเก่ง ผมอยากให้ทั้งคู่ได้เป็นนักร้องจริงๆ”
เขายังกล่าวติดตลกถึงครอบครัวของ เรน และ คิมแตฮี ซึ่งมีลูกสาวสองคนเช่นกัน “ตอนนี้ครอบครัวของ เรน กับ คิมแตฮี ก็มีลูกสาวสองคนเหมือนกัน ถ้าเราเลี้ยงลูกให้ดี เราก็จะมี 4 คน เตรียมไว้ก่อน แล้วค่อยหาคนเพิ่มเพื่อทำวงเกิร์ลกรุ๊ป”
ชาวเน็ตเกาหลีแสดงความเห็นหลากหลาย บางส่วนชื่นชมในวิสัยทัศน์ของพัคจินยองที่ต้องการผลักดัน K-pop ในระดับชาติ ขณะที่บางส่วนก็แสดงความกังวลเกี่ยวกับการเมืองที่อาจส่งผลกระทบต่อวงการเพลง แต่ก็มีเสียงที่มองว่าเขาเหมาะกับตำแหน่งนี้เพราะมีประสบการณ์ในอุตสาหกรรม