
LE SSERAFIM ตอกย้ำความปัง! 'SPAGHETTI' ทะยานชาร์ตบิลบอร์ด-ออฟฟิเชียลชาร์ต สื่อนอกยกให้เป็น 'ที่สุดของ K-Pop'
เกิร์ลกรุ๊ปแถวหน้า LE SSERAFIM กำลังสร้างปรากฏการณ์ใหม่ในวงการ K-Pop ด้วยซิงเกิลชุดแรก ‘SPAGHETTI’ ที่ไม่เพียงแต่โดดเด่นด้วยแนวดนตรีอันสดใหม่ แต่ยังสะท้อนถึงความเป็นตัวของตัวเองที่เต็มเปี่ยม ทำให้แฟนๆ ยกให้เป็น "ดนตรีสไตล์ LE SSERAFIM" และ "LE SSERAFIM คือแนวเพลง"
นักวิจารณ์เพลงต่างชื่นชมอัลบั้มนี้ว่าเป็นการผสมผสานระหว่างซาวด์ดนตรีล้ำสมัย คอนเซ็ปต์ที่ท้าทายกรอบเดิม และการเอาชนะอุปสรรคต่างๆ จนกลายเป็น "เมนูเพลง" ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวของ LE SSERAFIM เท่านั้นในวงการ K-Pop พวกเธอได้พัฒนาไปสู่การเป็นวงที่ตีความและนำแนวดนตรีต่างๆ มาใส่สีสันของตัวเองได้อย่างลงตัว
‘SPAGHETTI’ ยังประสบความสำเร็จอย่างสูงในตลาดเพลงระดับโลก โดยสามารถขึ้นไปติดอันดับ 50 ในชาร์ต Billboard Hot 100 ของสหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นสถิติสูงสุดของวง นับเป็นการส่งเพลงเข้าชาร์ต Hot 100 ติดต่อกันถึง 3 เพลง ต่อจาก ‘EASY’ (อันดับ 99) และ ‘CRAZY’ (อันดับ 76) ตอกย้ำสถานะวง K-Pop ระดับท็อปที่ประสบความสำเร็จในระดับโลก เคียงข้างวงอย่าง BLACKPINK และ TWICE
นอกจากนี้ เพลงไตเติ้ล ‘SPAGHETTI (feat. j-hope of BTS)’ ซึ่งเป็นแนว Alternative Punk Pop ยังได้โปรดิวเซอร์ระดับโลกมาร่วมงานมากมาย อาทิ Federico Vindver โปรดิวเซอร์ชาวอาร์เจนตินาที่เคยร่วมงานกับ Justin Timberlake, Kanye West และ Coldplay รวมถึง Gian Stone ผู้อยู่เบื้องหลังเพลง ‘Stuck with U’ ของ Justin Bieber และ Ariana Grande
นักวิจารณ์หลายคนมองว่าซิงเกิลนี้คือจุดสูงสุดของการทดลองแนวเพลงที่ LE SSERAFIM ทำมาอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่เดบิวต์ และเป็นการตอกย้ำตัวตนอันเป็นเอกลักษณ์ของวง พวกเธอได้สำรวจแนวเพลงที่หลากหลาย ตั้งแต่ Hip-hop, Punk, Afrobeat ไปจนถึง Latin เพื่อสร้างเรื่องราวของวงที่เต็มไปด้วยความมุ่งมั่นและการเติบโตจากภายใน
ฮวัง ซอน-ออบ นักวิจารณ์เพลงป๊อป ชี้ว่า "ความมั่นใจที่สั่งสมมาจากการผ่านอุปสรรคต่างๆ และความแข็งแกร่งภายในใจ ถูกถ่ายทอดออกมาในอัลบั้มนี้อย่างชัดเจน" เขายังกล่าวเสริมว่า "ทัศนคติในการเล่าเรื่องของตัวเองอย่างมีอารมณ์ขันและมั่นใจ โดยไม่หวั่นไหวต่อสายตาภายนอก กลายเป็นจุดแข็งที่เป็นเอกลักษณ์ของ LE SSERAFIM ไปอย่างสมบูรณ์"
โช ฮเย-ริม นักวางแผนคอนเทนต์เพลง กล่าวว่า "เสียงร้องของ LE SSERAFIM เหมาะสมอย่างยิ่งกับการควบคุมเส้นทางอารมณ์และความหนาแน่นของพลังงานในเพลง ‘SPAGHETTI’" เธอยังเสริมว่า "‘SPAGHETTI’ เป็นเพลงที่แสดงความเป็น LE SSERAFIM ได้อย่างมีสไตล์มากที่สุด และแสดงให้เห็นถึงความสามารถในการปรุงแต่งแนวเพลงราวกับเชฟ"
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การร่วมงานกับ เจ-โฮป แห่ง BTS ในเพลงนี้ ช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้กับเพลง และขยายขอบเขตการแสดงออกทางดนตรีได้อย่างยอดเยี่ยม คิม ซอง-ฮวาน นักวิจารณ์ กล่าวว่า "นี่ไม่ใช่แค่การฟีทเจอริ่งธรรมดา แต่เป็นการเพิ่มมิติให้กับเพลง" โช ฮเย-ริม เสริมว่า "ฟีทเจอริ่งของเจ-โฮป เปรียบเสมือน 'หมัดเด็ด' ที่ทำให้ผู้ฟังเข้าใจความหมายของเพลงได้อย่างตรงไปตรงมามากขึ้น"
สำหรับเพลง ‘Pearlies (My oyster is the world)’ เป็นแนว Disco Pop ที่ ยุน-จิน สมาชิกในวงมีส่วนร่วมในการแต่งเพลง โดยเฉพาะท่อนที่ว่า “ไข่มุกไม่ใช่สิ่งที่ได้มา / แต่มันคือสติปัญญาที่สั่งสมภายในตัว” เป็นการเปรียบเปรยการเติบโตของ LE SSERAFIM จากมุมมองที่พวกเธอเป็นผู้กำหนดการเติบโตด้วยตนเอง
ฮวัง ซอน-ออบ ชื่นชมว่า "เนื้อเพลงที่แสดงออกถึงการเติบโตอย่างเป็นอิสระ โดยไม่ต้องคำนึงถึงสายตาของผู้อื่นนั้นน่าประทับใจ" เขายังกล่าวถึงความสัมพันธ์กับแฟนคลับว่า "ยังได้รับความประทับใจว่าพวกเธอกำลังสร้างความสัมพันธ์กับแฟนคลับในฐานะศิลปินที่เป็นศูนย์กลางและมีอำนาจในการกำหนดทิศทางของตัวเอง"
ในด้านการแสดงและภาพลักษณ์ ก็ยังคงโดดเด่นด้วยสไตล์เฉพาะตัวของ LE SSERAFIM ท่าเต้นที่สอดคล้องกับเนื้อเพลงอย่าง “SPAGHETTI ติดอยู่ระหว่างฟัน” หรือ “SSERAFIM ติดอยู่ในหัว” นั้นทรงพลังจนกระตุ้นโดปามีนได้ การเปลี่ยนลุคที่โดดเด่น เช่น การย้อมคิ้วเป็นสีอ่อน หรือการย้อมผมเป็นสีส้ม ก็เป็นที่น่าจับตามอง นอกจากนี้ เทคนิคพิเศษต่างๆ ในมิวสิกวิดีโอ เช่น วัตถุดิบที่ลอยอยู่ในอากาศ หรือฉากหลังที่เป็นแอนิเมชั่น 2D ก็กำลังเป็นที่พูดถึงอย่างมาก
คิม ซอง-ฮวาน กล่าวว่า "ภาพฉากที่ใช้สีแดงสดของมะเขือเทศ ซึ่งเป็นวัตถุดิบหลักของซอสสปาเก็ตตี้ ครอบคลุมทั่วทั้งภาพ สร้างความตกตะลึงที่ท้าทายจินตนาการตามขนบเดิมได้อย่างเผ็ดร้อน" เขาคาดการณ์ว่า "ท่าเต้นที่สดใหม่ในแบบฉบับของ LE SSERAFIM ก็เน้นย้ำถึงความติดหูของเพลงได้เป็นอย่างดี ความสมดุลระหว่างการคงไว้ซึ่งความแปลกใหม่แบบตะวันตก แต่ไม่ทิ้งความรู้สึกสากล จะเป็นกุญแจสำคัญในการขยายฐานแฟนคลับไปทั่วโลก"
ฮวัง ซอน-ออบ วิเคราะห์ว่า "ในขณะที่ผลงานก่อนๆ เน้นภาพลักษณ์ที่แข็งแกร่งด้วยดนตรีและการแสดงที่จัดเต็ม แต่ซิงเกิลนี้มีความสำคัญในการแสดงให้เห็นว่า แม้จะเป็นความมุ่งมั่นแบบเดียวกัน ก็สามารถถ่ายทอดออกมาได้อย่างเข้าถึงง่ายและมีอารมณ์ขัน"
LE SSERAFIM ได้ปิดฉากเวิลด์ทัวร์ ‘2025 LE SSERAFIM TOUR ‘EASY CRAZY HOT’’ ซึ่งเริ่มต้นไปเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมาได้อย่างงดงาม โดยการแสดงทั้ง 13 รอบใน 11 เมืองทั่วเอเชียและอเมริกาเหนือ รวมถึงที่ Saitama Super Arena ในญี่ปุ่น ก็ถูกจำหน่ายบัตรหมดทุกรอบ พวกเธอได้รับคำชื่นชมอย่างล้นหลามจากเวทีที่ตระการตาและพลังเสียงอันแข็งแกร่ง สมกับเป็น 'ราชินีแห่งการแสดงเกิร์ลกรุ๊ป' และกำลังจะมีการแสดงคอนเสิร์ต encore ‘2025 LE SSERAFIM TOUR ‘EASY CRAZY HOT’ ENCORE IN TOKYO DOME’ ในวันที่ 18-19 พฤศจิกายนนี้ ที่ Tokyo Dome ประเทศญี่ปุ่น การเข้าสู่ Tokyo Dome เป็นครั้งแรกนี้ ซึ่งเป็นผลมาจากการเติบโตอย่างต่อเนื่อง จะทำให้พวกเธอสานต่อกระแสความฮิตในระดับโลกได้อย่างแน่นอน หลังจากความสำเร็จของซิงเกิลชุดแรก ‘SPAGHETTI’
โช ฮเย-ริม เน้นย้ำว่า "การพัฒนาของวงที่ทำให้ท่าเต้นสามารถสื่อสารได้ด้วยภาพ และมีความน่าติดตามจนอยากจะลุกขึ้นมาเต้นตามได้ทันทีนั้นเป็นที่ประจักษ์" เธอกล่าวเสริมว่า "ตอนนี้ พวกเธอไม่จำเป็นต้องอธิบายคอนเซ็ปต์ของตัวเองอีกต่อไป การแสดงบนเวทีเพียงครั้งเดียวก็สามารถสื่อความหมายทั้งหมดได้ ทำให้สามารถดึงดูดใจผู้ชมทั่วโลกได้อย่างง่ายดาย"
ชาวเน็ตเกาหลีต่างแสดงความตื่นเต้นกับความสำเร็จของ LE SSERAFIM โดยแสดงความคิดเห็น เช่น "สมแล้วที่เป็น LE SSERAFIM! เพลงใหม่ปังมากจริงๆ" และ "การร่วมงานกับเจ-โฮปคือที่สุด! รู้สึกเหมือนได้ฟังเพลงคุณภาพระดับโลกเลย"