
จีชางอุคพลิกบทบาทสุดขั้ว! 'เมืองมายา' ซีรีส์ Disney+ เขย่าขวัญผู้ชมด้วยการหักมุมสุดคาดคิด
ดิสนีย์พลัสเปิดตัวซีรีส์ K-ดราม่าฟอร์มยักษ์อีกเรื่อง 'เมืองมายา' (Jokakdosi) ที่จะพาผู้ชมดำดิ่งสู่เบื้องหลังอันดำมืดของเมืองที่สว่างไสว และการต่อสู้เพื่อเอาชีวิตรอดของผู้ชายคนหนึ่งที่ถูกโยนเข้าไปอยู่ท่ามกลางความจริงที่แตกสลาย
ซีรีส์เรื่องนี้จะพาคุณไปพบกับเมืองที่ความจริงถูกบิดเบือนราวกับเศษเสี้ยว และทุกคนต่างใช้ชีวิตตามความปรารถนาของตนเอง ในเรื่องราวอันยิ่งใหญ่นี้ ชายคนหนึ่งต้องเดิมพันด้วยชีวิตเพื่อทวงคืนทุกสิ่งที่เสียไป การดำเนินเรื่องที่รวดเร็วตั้งแต่ตอนแรก และงานภาพที่มีสไตล์แต่แฝงความหม่นหมอง สามารถตรึงผู้ชมให้อยู่กับเรื่องราวได้อย่างไม่อาจละสายตา
หัวใจสำคัญของเรื่องราวอันซับซ้อนนี้คือ จีชางอุค นักแสดงมากฝีมือ ซึ่งเคยฝากผลงานในแนวโรแมนติกคอมเมดี้ และเป็นตัวแทนของ 'K-แอ็คชั่น' มาก่อน ใน 'เมืองมายา' เขาสวมบทบาทชายผู้สูญสิ้นทุกสิ่ง ถ่ายทอดความว่างเปล่า ความโกรธที่พลุ่งพล่าน และความสิ้นหวังที่จะไขว่คว้าความจริงออกมาได้อย่างลึกซึ้ง
ตัวละครที่เขาแสดงต้องเผชิญกับการถูกใส่ร้ายว่าเป็นฆาตกรหลังจากการตายของเพื่อนร่วมงาน ทำให้ชีวิตตกต่ำลงอย่างไม่ทันตั้งตัว จีชางอุคถ่ายทอดตัวละครที่มีมิติได้อย่างสมบูรณ์แบบ ไม่ยอมแพ้ต่อความสิ้นหวังที่ถาโถมเข้ามา และลับคมดาบแห่งการแก้แค้นที่เฉียบคมที่สุดจากพื้นเย็นเยียบของคุก
ไม่เพียงแต่ฉากที่ระเบิดอารมณ์ออกมาเท่านั้น แต่การแสดงที่ควบคุมได้อย่างยอดเยี่ยมของเขา ซึ่งซ่อนแผนการอันแยบยลไว้ภายใต้ดวงตาที่ดูเหมือนยอมจำนนต่อทุกสิ่ง ถือเป็นการ 'ค้นพบจีชางอุคอีกครั้ง' อย่างแท้จริง นี่คือสิ่งที่บ่งบอกถึง 'การแสดงที่ลึกซึ้งทางอารมณ์' อย่างแท้จริง
เสน่ห์ที่โดดเด่นที่สุดของ 'เมืองมายา' คือการตั้งค่าที่สมจริงราวกับ 'เรื่องที่อาจเกิดขึ้นได้' ซีรีส์ไม่ได้หยุดเพียงแค่การนำเสนอเรื่องราวความน่าสงสารของตัวเอกที่ถูกใส่ร้าย แต่กลับเจาะลึกอย่างเฉียบขาดและเยือกเย็นว่า บุคคลคนหนึ่งจะกลายเป็นเหยื่อได้อย่างไรภายใต้ตรรกะของอำนาจและทุนที่ยิ่งใหญ่ และพยานหลักฐานทั้งหมดถูก 'ปั้นแต่ง' ให้เขากลายเป็นคนร้ายได้อย่างไร ความจริงไม่สำคัญ สิ่งที่พวกเขาต้องการคือ 'รูปลักษณ์ของฆาตกร' เท่านั้น ผู้ชมจะตั้งคำถามที่น่าขนลุกกับตัวเองว่า 'ถ้าเป็นฉันล่ะ?' ซึ่งเป็นการทิ้งข้อความที่คมคายที่ส่องสว่างให้เห็นด้านมืดของสังคมของเรา นอกเหนือจากความบันเทิงในรูปแบบของแนวหนัง
ความอยุติธรรมสุดขีดนี้นำไปสู่ทางเลือกที่รุนแรงที่สุดคือ 'การแหกคุก' นี่คือเหตุผลที่หลายคนยกย่องว่าเป็น 'Prison Break ฉบับเกาหลี' 'เมืองมายา' ไม่ได้นำเสนอฉากแหกคุกเป็นเพียงภาพที่กระตุ้นเร้า
การต่อสู้ทางสมองอันแยบยลที่ตัวเอกต้องเผชิญกับบุคคลทั้งภายในและภายนอกคุก เพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของตนเองและโค่นล้มองค์กรชั่วร้ายอันยิ่งใหญ่ รวมถึงการดำเนินแผนการที่เหนือความคาดหมาย สามารถมอบความตึงเครียดที่ไม่อาจละสายตาได้ตลอดเวลา โดยเฉพาะการหักมุมในแต่ละตอน พันธมิตรที่ไม่คาดคิด และการทรยศหักหลัง ทำให้ความน่าสนใจของเรื่องราวดำเนินไปถึงจุดสูงสุด นี่คือสิ่งที่สร้างความแตกต่างที่เป็นเอกลักษณ์ของ 'เมืองมายา' โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การเป็น 'การหลบหนี' จากความจริงที่ถูกบิดเบือน และก้าวแรกสู่การแก้แค้น ไม่ใช่เพียงแค่ 'การหลบหนี' ทางกายภาพ
สรุปแล้ว 'เมืองมายา' เป็นผลงานชิ้นเอกที่ผสมผสานการแสดงทางอารมณ์อันลึกซึ้งของ จีชางอุค ความน่ากลัวที่สมจริงของ 'การถูกใส่ร้ายว่าเป็นฆาตกร' และความบันเทิงของแนว 'ระทึกขวัญแหกคุก' ได้อย่างสมบูรณ์แบบ ในเรื่องราวที่ดำเนินไปอย่างรวดเร็วนี้ การไล่ล่าหาตัวฆาตกรที่แท้จริง พร้อมไปกับการถ่ายทอดการต่อสู้อันโดดเดี่ยวและสิ้นหวังของบุคคลคนหนึ่งในการเผชิญหน้ากับโลกที่ไม่ยุติธรรมได้อย่างหนักแน่น สำหรับแฟนๆ ที่รอคอยการพลิกบทบาทอันทรงพลังของ จีชางอุค และซีรีส์แนวระทึกขวัญที่น่าติดตามตลอดเวลา เหตุผลที่ต้องรีบไปดู 'เมืองมายา' ทาง Disney+ ตอนนี้ ชัดเจนแล้ว
ชาวเน็ตเกาหลีต่างชื่นชมว่า 'จีชางอุคแสดงได้ยอดเยี่ยมมาก จนแทบจำไม่ได้ว่าเป็นเขา!' บางคนถึงกับบอกว่า 'นี่ไม่ใช่แค่การแสดง แต่เป็นการถ่ายทอดชีวิตของตัวละครออกมาจริงๆ' และ 'รอคอยซีรีส์แบบนี้มานานมาก!'