
ดาบพิฆาตอสูร: ศึกโรงงาน ไร้ขีดจำกัด" ทำลายสถิติ! กลายเป็นหนังญี่ปุ่นทำรายได้สูงสุดตลอดกาลในเกาหลีใต้
ภาพยนตร์อนิเมะเรื่องเยี่ยมแห่งปี "ดาบพิฆาตอสูร: ศึกโรงงาน ไร้ขีดจำกัด" (Demon Slayer: Kimetsu no Yaiba - Swordsmith Village Arc) ได้สร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ในวงการภาพยนตร์เกาหลีใต้ ด้วยการทะยานขึ้นเป็นภาพยนตร์ญี่ปุ่นที่ทำรายได้สูงสุดตลอดกาล หลังจากกวาดรายได้ไปแล้ว 5.59 ล้านคน ภายในเวลาเพียง 79 วันของการเข้าฉาย
การมาถึงของ "ดาบพิฆาตอสูร: ศึกโรงงาน ไร้ขีดจำกัด" ได้ทำลายสถิติที่ภาพยนตร์ "Suzume" (สึซึเมะ ประตูสู่ฝัน) เคยทำไว้เมื่อปี 2023 ด้วยยอดผู้ชม 5.58 ล้านคน ทำให้ "ดาบพิฆาตอสูร" กลายเป็นปรากฏการณ์ครั้งใหม่ที่น่าจับตามอง
จากข้อมูลของเว็บไซต์ Korea Box Office Information System (KOBIS) เมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ภาพยนตร์เรื่องนี้มีจำนวนผู้ชมสะสมสูงถึง 5.59 ล้านคน แซงหน้า "Suzume" ขึ้นแท่นเป็นภาพยนตร์ญี่ปุ่นและอนิเมะที่ทำรายได้สูงสุดตลอดกาลในเกาหลีใต้
ก่อนหน้าการเข้าฉายในวันที่ 22 สิงหาคม ภาพยนตร์เรื่องนี้ก็เป็นที่กล่าวขานอย่างมาก ด้วยยอดจองตั๋วล่วงหน้าที่สูงถึง 920,000 ใบ ซึ่งเป็นยอดจองสูงสุดในปีนี้ และเมื่อเข้าฉายเพียง 2 วัน ก็มียอดผู้ชมทะลุ 1 ล้านคน, 10 วัน มียอด 3 ล้านคน และ 18 วัน ก็ทะลุ 4 ล้านคน สร้างสถิติใหม่ได้อย่างต่อเนื่อง
ขณะนี้ "ดาบพิฆาตอสูร: ศึกโรงงาน ไร้ขีดจำกัด" กำลังมุ่งหน้าสู่การเป็นภาพยนตร์ที่ทำรายได้สูงสุดประจำปี 2023 ในเกาหลีใต้ โดยมีภาพยนตร์เรื่อง "Project Silence" (ชื่อที่ใช้ในข่าวคือ "좀비딸" อาจหมายถึงเรื่องอื่น) ซึ่งมียอดผู้ชม 5.63 ล้านคน เป็นเป้าหมายต่อไป ซึ่งคาดว่าสถิติใหม่นี้จะถูกสร้างขึ้นภายในสุดสัปดาห์นี้
ในส่วนของประเทศญี่ปุ่นเอง ภาพยนตร์เรื่องนี้ก็ประสบความสำเร็จอย่างสูงเช่นกัน โดยมียอดรายได้สะสมถึง 37.53 พันล้านเยน (ข้อมูล ณ วันที่ 3 พฤศจิกายน) ทำให้ "ดาบพิฆาตอสูร" ยิ่งตอกย้ำความสำเร็จในฐานะภาพยนตร์ที่ทำรายได้สูงสุดตลอดกาลของแฟรนไชส์นี้
เรื่องราวในภาพยนตร์เป็นการเผชิญหน้าครั้งสุดท้ายระหว่างหน่วย "หน่วยพิฆาตอสูร" และเหล่าอสูรชั้นสูง ณ ฐานทัพลับ "ปราสาทไร้ขีดจำกัด" ซึ่งเป็นบทแรกของการต่อสู้ครั้งยิ่งใหญ่ กำลังฉายอยู่ในโรงภาพยนตร์ทั่วประเทศ
ชาวเน็ตเกาหลีต่างชื่นชมความสำเร็จของ "ดาบพิฆาตอสูร" และแสดงความยินดีกับการทำลายสถิติใหม่ หลายคนกล่าวว่า "สมกับเป็นดาบพิฆาตอสูรจริงๆ!", "รอภาคต่อไปไม่ไหวแล้ว", และ "นี่คืออนิเมะที่ห้ามพลาดเด็ดขาด"