
K-콘텐츠 วิกฤตลิขสิทธิ์! ซีรีส์ดังหลุดเต็มเว็บเถื่อน สินค้าละเมิดลิขสิทธิ์เกลื่อนตลาดจีน
วงการ K-콘텐츠 กำลังเผชิญหน้ากับวิกฤตการณ์ละเมิดลิขสิทธิ์ครั้งใหญ่ เมื่อผลงานเด่นของแพลตฟอร์ม OTT เกาหลีหลายเรื่อง เช่น ซีรีส์ออริจินัลของ TVING เรื่อง ‘Dear X’, ‘Physical: Asia’ ทาง Netflix และ ‘Squid Game 3’ ต่างถูกลักลอบเผยแพร่ผ่านเว็บไซต์สตรีมมิ่งผิดกฎหมายและตลาดออนไลน์ในต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง
ณ วันที่ 14 ของเดือนนี้ พบว่า ‘Dear X’ ทั้งเรื่องถูกสตรีมมิ่งแบบเต็มรูปแบบบนเว็บไซต์ผิดกฎหมายแห่งหนึ่ง ซึ่งสามารถเข้าถึงได้ง่ายเพียงค้นหาผ่าน Google ทำให้ผู้ใช้สามารถรับชมได้ฟรี นอกจากนี้ ‘Physical: Asia’ ที่เพิ่งเปิดตัวทาง Netflix เมื่อวันที่ 28 ที่ผ่านมา ก็ปรากฏว่ามีตอนที่ 1-4 ถูกนำไปเผยแพร่ในเว็บไซต์เดียวกันทันทีหลังเปิดตัว
แพลตฟอร์มเหล่านี้มักเปลี่ยนโดเมนใหม่ทุกครั้งที่ถูกสั่งระงับการเข้าถึง อีกทั้งยังมีชุมชนออนไลน์ที่คอยแชร์ลิงก์ใหม่ๆ แบบเรียลไทม์ ส่งผลให้กลายเป็น 'โรงภาพยนตร์สตรีมมิ่งเถื่อน' ที่เร็วกว่าบริการ OTT อย่างเป็นทางการเสียอีก
อุตสาหกรรม OTT กำลังอยู่ในภาวะตื่นตัวขั้นสูงสุด การสตรีมมิ่งที่ผิดกฎหมายนี้ไม่ใช่แค่การละเมิดลิขสิทธิ์ธรรมดา แต่เป็น 'หมัดตรง' ที่ทำลายโครงสร้างรายได้ของแพลตฟอร์มแบบสมัครสมาชิก Netflix, TVING, Disney+, Wavve และอื่นๆ กำลังประสบปัญหาความเสียหายหลายหมื่นล้านวอนต่อปี และจากการประเมินของอุตสาหกรรม คาดว่ามูลค่าความเสียหายด้านลิขสิทธิ์ของอุตสาหกรรมคอนเทนต์เกาหลีสูงถึง 5 ล้านล้านวอนต่อปี
ในประเทศจีน แม้ว่าจะไม่สามารถรับชม Netflix ได้อย่างเป็นทางการ แต่ ‘Squid Game 3’ ก็กำลังแพร่กระจายผ่านการสตรีมมิ่งที่ผิดกฎหมาย ขณะเดียวกัน บนแพลตฟอร์มช้อปปิ้งอย่าง AliExpress ก็มีการจำหน่ายสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์อย่างโจ่งแจ้ง เช่น เสื้อยืดที่พิมพ์ใบหน้าของ อี จอง-แจ และชุดผู้เข้าแข่งขัน
ศาสตราจารย์ ซอ คยอง-ด็อก จากมหาวิทยาลัยซองชิน กล่าวประณามว่า "การกระทำที่ละเมิดลิขสิทธิ์ไปจนถึงการละเมิดสิทธิ์ในภาพลักษณ์ ไม่ใช่แค่การขโมยอุตสาหกรรมวัฒนธรรมเกาหลี"
เหตุผลที่การรั่วไหลของคอนเทนต์ยังคงตรวจจับได้ยาก เป็นเพราะเซิร์ฟเวอร์ที่ตั้งอยู่ในต่างประเทศและการเปลี่ยนโดเมนอยู่บ่อยครั้ง ในความเป็นจริง เว็บไซต์สตรีมมิ่งผิดกฎหมายบางแห่งจะกลับมาดำเนินการต่อทันทีหลังจากถูกบล็อกโดยการสร้างที่อยู่ใหม่
แม้ว่าบริษัท OTT และหน่วยงานรัฐจะร่วมมือกัน แต่หากผู้ให้บริการโฮสติ้งในต่างประเทศไม่ให้ความร่วมมือ การสกัดกั้นที่มีประสิทธิภาพก็แทบจะเป็นไปไม่ได้ อุตสาหกรรมต่างๆ เห็นพ้องกันว่าจำเป็นต้องมีมาตรการที่เป็นรูปแบบของ 'พันธมิตรลิขสิทธิ์ระดับโลก' นอกเหนือจากการกวาดล้างรายบุคคล
ระบบที่ใช้เทคโนโลยีการติดตามคอนเทนต์ AI เพื่อตรวจจับค่าแฮช (ค่าระบุตัวตนที่ไม่ซ้ำกัน) ของแหล่งที่มาของวิดีโอแบบเรียลไทม์ และเชื่อมโยงกับแพลตฟอร์มต่างประเทศเพื่อขอให้ลบออกทันที ก็เป็นทางออกหนึ่งที่กำลังถูกกล่าวถึง นอกจากนี้ ยังมีการผลักดันแนวทางที่ผู้ให้บริการ OTT ที่ผลิตและเผยแพร่คอนเทนต์จะร่วมกันใส่ 'ลายน้ำดิจิทัล' เพื่อติดตามเส้นทางการรั่วไหลครั้งแรกของสำเนาที่ผิดกฎหมาย
ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่า "เมื่อผู้ที่รับชมอย่างผิดกฎหมายยังคงเป็นเพียงผู้บริโภค ระบบนิเวศ K-콘텐츠 จะพังทลายลง" การรั่วไหลของ K-콘텐츠 ไม่ใช่แค่เหตุการณ์อุบัติเหตุ แต่เป็นภาพสะท้อนของวิกฤตเชิงโครงสร้างที่อุตสาหกรรมวัฒนธรรมเกาหลีต้องเผชิญ
การจัดตั้ง 'ระบบเฝ้าระวังระบบนิเวศลิขสิทธิ์ระดับโลก' เป็นสิ่งเร่งด่วนที่สุด การกวาดล้างอาจไร้ผลหากเพียงแค่เปลี่ยนโดเมน วิธีแก้ปัญหาที่ปกป้องรากฐานของระบบนิเวศคอนเทนต์นั้น สรุปได้ที่ 'พันธมิตรลิขสิทธิ์ระดับโลก' เทคโนโลยีการติดตาม AI และการเสริมสร้างความร่วมมือระหว่างประเทศ
ชาวเน็ตเกาหลีแสดงความไม่พอใจอย่างมากต่อการละเมิดลิขสิทธิ์นี้ โดยแสดงความคิดเห็นว่า "มันน่าหงุดหงิดจริงๆ ที่ต้องเห็นผลงานที่สร้างมาอย่างยากลำบากถูกเผยแพร่ฟรีแบบนี้" และ "ควรมีมาตรการที่เข้มงวดยิ่งขึ้นในการจัดการกับปัญหาเหล่านี้"