
คิมยอน-คยอง ปิดฉากซีซั่นแรก 'Wonderdogs' สุดสวยงาม! แฟนๆ ลุ้นซีซั่น 2 กับการก่อตั้งทีมใหม่
ทีม 'Wonderdogs' ภายใต้การนำของ 'คิม ยอน-คยอง' ปิดฉากการแข่งขันฤดูกาลแรกได้อย่างงดงาม ด้วยสถิติชนะ 5 แพ้ 2 คิดเป็น 71.4% ของอัตราการชนะ
ในนัดสุดท้าย พวกเขาสามารถเอาชนะทีม 'ฮึงกุกไลฟ์' ไปได้แบบขาดลอย 3-0 เซต ส่งท้ายฤดูกาลได้อย่างสมบูรณ์แบบ รายการ 'Wonderdogs' ทางช่อง MBC ที่พาผู้ชมไปสัมผัสชีวิตของ 'คิม ยอน-คยอง' ในฐานะโค้ชป้ายแดง ก็ได้ทิ้งท้ายตอนจบไว้อย่างน่าติดตาม โดยมีการบอกใบ้ถึงความเป็นไปได้ในการก่อตั้งสโมสรอาชีพแห่งใหม่ในซีซั่นที่ 2
ในตอนที่ออกอากาศเมื่อวันที่ 23 พฤศจิกายน รายการ 'Wonderdogs' ได้นำเสนอเรื่องราวการแข่งขันนัดสุดท้ายของทีม และเบื้องหลังของ 'คิม ยอน-คยอง' ในฐานะโค้ช
ในการแข่งขันกับทีมแชมป์ระดับโปร 'Wonderdogs' โชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยมตั้งแต่ต้นเกม ด้วยการโจมตีที่เฉียบคมของ 'อิน คู-ชี', 'พโย ซึง-จู' และ 'ฮัน ซง-ฮี' ทำให้ทีมได้เปรียบ 'คิม ยอน-คยอง' ใช้กลยุทธ์ที่แม่นยำในการอ่านเกมของทีมเก่าอย่าง 'ฮึงกุกไลฟ์' ทั้งการจับจังหวะการบล็อกและการสั่งเสิร์ฟเน้นเป้าหมาย ส่งผลให้ทีมคว้าชัยชนะในเซตที่ 1 และ 2 ไปได้
ในเซตที่ 3 แม้จะถูก 'ชอง ยุน-จู' และ 'มุน จี-ยุน' ไล่ตามมาอย่างสูสี แต่ด้วยการตีปิดเกมอันเด็ดขาดของ 'พโย ซึง-จู' และ 'แบ็ค แช-ริม' ทำให้ทีมพลิกกลับมาคว้าชัยชนะไปได้ในที่สุด
หลังจบการแข่งขัน นักกีฬาทุกคนได้ร่วมกันโยน 'คิม ยอน-คยอง' ขึ้นฟ้าเพื่อฉลองปิดฤดูกาล 'คิม ยอน-คยอง' กล่าวด้วยความรู้สึกว่า "รู้สึกเหมือนเราเป็น 'วันทีม' (One Team) อย่างแท้จริงค่ะ ดีใจที่ทุกคนพัฒนาขึ้นมากเกินกว่าที่คิด" นอกจากนี้ ยังมีข่าวดีเพิ่มเติมเมื่อ 'อี นา-ยอน' ผู้เล่นในตำแหน่งเซตเตอร์ ได้ย้ายไปร่วมทีม 'ฮึงกุกไลฟ์' กลายเป็นผู้เล่นจาก 'Wonderdogs' คนแรกที่ได้ก้าวเข้าสู่ลีกอาชีพ
อย่างไรก็ตาม ตลอดทั้งฤดูกาลก็ยังคงมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ที่แบ่งออกเป็นสองด้าน รายการ 'Wonderdogs' ได้รับคำชมอย่างมากจากการนำเสนอโครงสร้างและกลยุทธ์การแข่งขันวอลเลย์บอลจริงอย่างสมจริง โดยลดการใช้เทคนิคการเล่าเรื่องแบบวาไรตี้ลง แต่ในขณะเดียวกัน ก็มีคำวิจารณ์ว่าการตั้งเป้าหมายที่สูงเกินไปอาจสร้างแรงกดดันให้กับนักกีฬา
ทีม 'Wonderdogs' ประกอบด้วยผู้เล่นที่ถูกปล่อยตัวจากทีมอาชีพ, ผู้เล่นที่เลิกเล่นไปแล้ว หรือผู้เล่นที่ยังไม่ได้รับโอกาส 'คิม ยอน-คยอง' เองก็เป็นโค้ชมือใหม่ที่ไม่มีประสบการณ์มาก่อน
ถึงกระนั้น ทีมผู้ผลิตก็ตั้งเงื่อนไขที่โหดร้ายตั้งแต่แรกว่า "หากทีมล้มเหลว 50% จะต้องยุบทีม" ทำให้เกิดข้อวิจารณ์ตามมาอย่างต่อเนื่องหลังรายการออกอากาศว่า โครงสร้างที่ทำให้ผู้เล่นที่เตรียมตัวในช่วงเวลาสั้นๆ ต้องรับผิดชอบต่อผลการแข่งขันทั้งหมดนั้นเป็นเรื่องที่มากเกินไป
อีกประเด็นที่ถกเถียงกันคือเรื่องราวของ 'คิม ยอน-คยอง' ที่ถูกเรียกว่า 'มหากาพย์คิม ยอน-คยอง'
การตัดต่อที่ทำให้คำสั่งแท็กติกของ 'คิม ยอน-คยอง' ในแต่ละแมตช์ดูเหมือนจุดสุดยอด และฉากที่เน้นปฏิกิริยาของโค้ชมากกว่าการเล่นของนักกีฬาก็ถูกนำเสนอซ้ำๆ ทำให้เกิดความเห็นว่า "รายการพึ่งพิงชื่อเสียงของโค้ชมากเกินไป แทนที่จะเน้นที่ทีม" และมีความเสียดายที่กระบวนการลองผิดลองถูกหรือการสื่อสารในฐานะโค้ชมือใหม่ของ 'คิม ยอน-คยอง' ไม่ได้รับการเจาะลึกเท่าที่ควร
ถึงกระนั้น ผลลัพธ์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดที่รายการนี้ทิ้งไว้ก็อยู่ที่อื่น
รายการนี้ได้นำเสนอเรื่องราวใหม่ที่เปิดโอกาสให้ผู้เล่นที่เลิกเล่น, ผู้เล่นในลีกอาชีพ และผู้เล่นที่ถูกปล่อยตัว สามารถก้าวเข้าสู่ "ประตูแห่งความเป็นโปร" อีกครั้ง โดยมีวอลเลย์บอลหญิงเป็นศูนย์กลาง
ไม่เพียงแค่การถ่ายทอดฉากการแข่งขันเท่านั้น แต่ยังได้รับการประเมินว่าสามารถยกระดับศักยภาพของอุตสาหกรรมกีฬาหญิงและการพูดคุยเกี่ยวกับการก่อตั้งสโมสรแห่งใหม่ให้เป็นรูปธรรมมากขึ้น
ในช่วงท้ายรายการ 'คิม ยอน-คยอง' ถามทีมผู้ผลิตด้วยรอยยิ้มว่า "เรียกมาทำไมอีกคะ" PD ตอบว่า "กำลังมีการพูดคุยเกี่ยวกับ 8 สโมสรอาชีพ..." ทำให้ 'คิม ยอน-คยอง' แสดงสีหน้าตกใจ
แม้จะเป็นเพียงฉากสั้นๆ แต่ก็ถูกตีความว่าเป็นเหมือนข้อความหลักของรายการ และเป็นจุดเริ่มต้นของซีซั่นต่อไป
การเดินทางครั้งแรกของ 'Wonderdogs' ได้สิ้นสุดลงแล้ว แต่การท้าทายของ 'คิม ยอน-คยอง' ในฐานะโค้ชยังคง 'ไม่สมบูรณ์' และตราบใดที่การพูดคุยเกี่ยวกับการก่อตั้ง "8 สโมสร" ซึ่งเป็นประเด็นที่ร้อนแรงที่สุดในวงการวอลเลย์บอลกำลังดำเนินอยู่ การมีอยู่ของรายการ 'Wonderdogs' ซีซั่น 2 ก็ไม่ใช่เพียงแค่จินตนาการในรายการวาไรตี้อีกต่อไป แต่ได้กลายมาเป็นภารกิจที่จับต้องได้มากขึ้นแล้ว
ชาวเน็ตเกาหลีรู้สึกตื่นเต้นกับการปิดฉากฤดูกาลของ Wonderdogs และแสดงความหวังว่าจะได้เห็นซีซั่น 2 เพื่อสนับสนุนเส้นทางโค้ชของคิม ยอน-คยอง อย่างไรก็ตาม บางส่วนก็อดเป็นห่วงไม่ได้ว่าการแข่งขันที่หนักหน่วงในรายการอาจสร้างแรงกดดันให้กับนักกีฬามากเกินไป