คิมโก-อึน เผยไม่หวั่นอาถรรพ์ 'The Bequeathed' หลังผู้จัด-นักแสดงถอนตัวรัวๆ
นักแสดงสาว คิมโก-อึน ออกมายอมรับว่าเธอไม่ได้กังวลเกี่ยวกับประเด็นดราม่าการเปลี่ยนแปลงผู้กำกับและนักแสดงในซีรีส์เรื่อง 'The Bequeathed' ก่อนที่เธอจะเริ่มถ่ายทำ
เมื่อช่วงเช้าวันที่ 12 เดือนนี้ ที่คาเฟ่แห่งหนึ่งในย่านซัมชองดง กรุงโซล ได้มีการจัดงานสัมภาษณ์ปิดท้ายซีรีส์ของ คิมโก-อึน นักแสดงนำจากซีรีส์ออริจินัลของ Netflix เรื่อง 'The Bequeathed'
'The Bequeathed' เป็นซีรีส์แนวระทึกขวัญลึกลับ ที่เล่าเรื่องราวระหว่าง ยุน-ซู (รับบทโดย จอนโดยอน) ที่ถูกกล่าวหาว่าเป็นฆาตกรสามีของเธอ และ มุน (รับบทโดย คิมโก-อึน) หญิงสาวปริศนาที่ถูกเรียกว่าแม่มด
ตอนแรกซีรีส์เรื่องนี้ได้รับความสนใจอย่างมากเมื่อมีข่าวว่าผู้กำกับ อี-อึง-บอก จะมาร่วมงานกับนักแสดง ซง-ฮเย-คโย และ ฮัน-โซ-ฮี แต่ในปี 2023 ผู้กำกับ อี-อึง-บอก ก็ถูกเปลี่ยนเป็น ชิม-นา-ยอน และไม่นานหลังจากนั้นก็มีข่าวว่าทั้งผู้กำกับ ชิม-นา-ยอน รวมถึงนักแสดง ซง-ฮเย-คโย และ ฮัน-โซ-ฮี ได้ถอนตัวออกไป จากนั้น อี-จอง-ฮโย ได้รับการยืนยันให้เป็นผู้กำกับคนใหม่ และ จอนโดยอน ได้เข้าร่วมแสดงแทน
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง บท มุน เดิมถูกเสนอให้กับ คิม-จี-วอน แต่สุดท้ายบทนี้ก็ตกเป็นของ คิมโก-อึน
เมื่อถูกถามว่าเธอรู้สึกกังวลเกี่ยวกับประเด็นการเปลี่ยนแปลงนักแสดงและผู้กำกับที่เกิดขึ้นบ่อยครั้งหรือไม่ คิมโก-อึน ตอบว่า "อันที่จริงฉันไม่ได้กังวลเรื่องพวกนั้นค่ะ" เธอกล่าวเสริมว่า "เพราะไม่ว่าจะเป็นงานชิ้นไหนก็ตาม มันก็มีกรณีที่บทไปถึงนักแสดงคนอื่นแล้วแต่สุดท้ายก็ไม่ได้เกิดขึ้นมากมายค่ะ แน่นอนว่าเรื่องนี้ถูกนำเสนอผ่านสื่อและหลายคนอาจจะรู้สึกได้ถึงผลกระทบจากการที่มันถูกยกเลิกไป แต่จริงๆ แล้วหลังจากทำงานเป็นนักแสดงมาสิบกว่าปี ฉันก็เจอสถานการณ์แบบนี้มาเยอะค่ะ นักแสดงทุกคนน่าจะเคยเจอสถานการณ์แบบนี้มาบ้าง เลยไม่รู้สึกว่ามันเป็นเรื่องที่น่ากังวลเลยค่ะ"
เมื่อถูกถามถึงเหตุผลที่เธอตัดสินใจรับบท มุน ทั้งที่ดูเหมือนจะเป็นบทที่แสดงได้ยาก เธอกล่าวว่า "ก่อนที่โปรเจกต์นี้จะเป็นรูปเป็นร่าง ฉันเคยอ่านบทในฐานะคนดูค่ะ บทที่ยื่นมาให้ไม่ใช่เพราะอยากให้ฉันเล่น แต่เป็นการอ่านเพื่อดูค่ะ และเพราะฉันเคยอ่านผ่านๆ ไปนานแล้ว เลยจำได้แค่ว่าตัวละครมีเสน่ห์เท่านั้นเอง แล้วพอคิดว่า 'คงกำลังจะสร้างกันแล้วสินะ' ฉันก็ได้รับข้อเสนอให้มาเล่นตอนกำลังถ่ายทำเรื่อง 'Eunjoong and Sangyeon' ค่ะ ได้ยินว่ารุ่นพี่ จอนโดยอน จะมาเล่นด้วย และจำได้ว่าตัวละครมีเสน่ห์ เลยบอกว่าอยากให้ฉันเล่นค่ะ"
เธอกล่าวต่อว่า "ในส่วนของตัวละคร ฉันสร้างสรรค์มันขึ้นมาจากการปรึกษากับผู้กำกับค่ะ อันที่จริงในบทร่างแรก ทิศทางของตัวละคร มุน คือ 'คนที่พยายามอย่างมากที่จะดูเหมือนพวกโรคจิต' ค่ะ แต่เป็นตัวละครที่จะเฉลยในตอนกลางๆ เรื่องว่า 'จริงๆ แล้วไม่ใช่' ใช่ไหมคะ ก่อนที่จะเฉลยนั้น เราก็ต้องหลอกคนดูด้วยค่ะ แต่ตอนที่ฉันอ่านบท มันอ่านสนุกดีค่ะ แต่พอจะเริ่มแสดงจริงๆ ก็มีความรู้สึกว่ามันอาจจะมีบางส่วนที่ไม่เข้ากับเหตุผลของตัวละครของฉันอยู่บ้าง นั่นคือ 'แล้วตอนอยู่คนเดียวล่ะ?' ถ้าเธอฆ่าคนเหมือนพวกโรคจิตในกล้องวงจรปิดตอนกลางเรื่อง แล้วตอนกลางเรื่องเฉลยว่าไม่ใช่โรคจิต คนดูอาจจะคิดว่า 'แล้วตอนนั้นล่ะ?' ใช่ไหมคะ แต่เราก็ไม่สามารถแสดงช่วงเวลาที่เธอกลับมาเป็นตัวของตัวเองได้อีกแล้ว เพราะคนดูต้องไม่รู้การหักมุมค่ะ"
เธอยังกล่าวเสริมว่า "เราคุยกันไปคุยกันมา ก็เลยคิดว่ามันจะเข้ากับบทมากกว่าไหมถ้าคนรอบข้างเข้าใจมุนผิดไปเอง และคิดเอาเองไปต่างๆ นานา ทั้งที่มุนไม่ได้ทำอะไร พวกโรคจิตก็เป็นประเภทที่ไม่สามารถเข้าใจอารมณ์ของผู้อื่นได้เหมือนกันใช่ไหมคะ เมื่อคิดถึงเรื่องนั้น ฉันเลยคิดว่าจะเป็นอย่างไรถ้าจะเปิดเผยภายหลังผ่านอดีตของมุน ว่าเป็นคนที่อารมณ์เสียไปแล้วอย่างสิ้นเชิง หรือถูกตัดทอนทางอารมณ์ไปแล้วค่ะ เลยตัดสินใจว่าส่วนอดีตจะต้องถูกเปิดเผยอย่างชัดเจน และก็เข้าถึงตัวละครในแนวทางนั้นค่ะ"
เมื่อถูกถามอย่างติดตลกว่า เธอเคยเสียใจที่ตัดสินใจรับบทนี้หรือไม่ ทั้งๆ ที่ทุ่มเทกับตัวละครมาก เธอก็ตอบว่า "ไม่ค่ะ" คิมโก-อึน กล่าวว่า "ในเรื่อง 'Eunjoong and Sangyeon' ยู-จุง ต้องออกมาตลอดใช่ไหมคะ คือต้องอยู่ในกองถ่ายทุกวัน แต่สำหรับ 'The Bequeathed' รุ่นพี่โดยอนจะอยู่กองถ่ายตลอดเหมือนบท ยู-จุง ส่วนฉันจะไปแค่บางครั้งค่ะ เวลาไปแสดงเป็นมุน ฉันจะรู้สึกตื่นเต้นมาก และพอคิดว่าจะได้เจอพี่ก็รู้สึกดีใจค่ะ พี่น่าจะเหนื่อยเพราะมีฉากเยอะใช่ไหมคะ มีทั้งฉากตากฝนและฉากแอ็คชั่นเยอะ เลยคิดว่าต้องไปเติมพลังให้ค่ะ เป็นงานที่ฉันตั้งใจทำอย่างมีความสุขค่ะ" (จะนำเสนอต่อในบทสัมภาษณ์②)
ชาวเน็ตเกาหลีแสดงความคิดเห็นว่า "เป็นการแสดงออกที่ดูเป็นผู้ใหญ่มาก" และ "ไม่แปลกใจเลยที่ คิมโก-อึน จะเล่นได้ดี" นอกจากนี้ยังมีการกล่าวถึงว่า "การที่เธอไม่กังวลกับดราม่าที่เกิดขึ้น แสดงให้เห็นถึงความเป็นมืออาชีพของเธอ"