สะเทือนวงการ! 'Taxi Driver 3' ตอนล่าสุดทุบสถิติเรตติ้งสูงสุด ปมปริศนา 15 ปีคลี่คลาย
SBS 'Taxi Driver 3' ดุเดือดถึงขีดสุด! อีเจฮุน สวมบทบาทนักขับแท็กซี่ล้างแค้น ลงโทษฆาตกรโรคจิต 'อึมมุนซอก' อย่างสาสม ปิดฉากคดีปริศนาเดียวที่ยังไม่คลี่คลายของ 'Taxi Driver' อย่างสะใจผู้ชม
เมื่อวันที่ 13 ที่ผ่านมา ในตอนที่ 8 ของซีรีส์เกาหลีสุดฮิตทางช่อง SBS เรื่อง 'Taxi Driver 3' (เขียนบทโดย โอซังโฮ, กำกับโดย คังโบซึง) คิมโดกิ (รับบทโดย อีเจฮุน) และทีม 'Rainbow Heroes' ได้สืบหาความจริงเกี่ยวกับคดีการเสียชีวิตอย่างปริศนาของ พัคมินโฮ (รับบทโดย อีโดฮัน) ที่เกิดขึ้นเมื่อ 15 ปีก่อน ซึ่งเกี่ยวข้องกับการล้มการแข่งขันในวงการกีฬา และได้มอบบทเรียน 'ตาต่อตา ฟันต่อฟัน' ให้กับหัวโจกของคดี ชอนกวางจิน (รับบทโดย อึมมุนซอก) อย่างสาสม ทำให้ผู้ชมได้รับความสะใจขั้นสุด
ผลจากการออกอากาศตอนล่าสุดนี้ ได้ทำลายสถิติเรตติ้ง โดยตามข้อมูลจาก Nielsen Korea ตอนที่ 8 ของ 'Taxi Driver 3' ทำเรตติ้งสูงสุดถึง 15.6% ในเขตปริมณฑล 12.9% และทั่วประเทศ 12.3% ซึ่งถือเป็นเรตติ้งสูงสุดของซีซั่น 3 ตลอดกาล ไม่เพียงแต่ครองอันดับ 1 ในช่วงเวลาเดียวกัน แต่ยังเป็นอันดับ 1 ของซีรีส์ทุกเรื่องในสัปดาห์นั้นอีกด้วย โดยเฉพาะกลุ่มผู้ชมอายุ 20-49 ปี ทำเรตติ้งพุ่งสูงถึง 4.1% และสูงสุดที่ 5.19% ทำให้ 'Taxi Driver 3' กลายเป็นรายการที่ได้รับความนิยมสูงสุดในทุกช่องทุกรายการประจำเดือนธันวาคม การันตีความแรงแบบไร้คู่แข่ง
เรื่องราวเข้มข้นขึ้นเมื่อเบื้องหลังความโหดร้ายของ ชอนกวางจิน ถูกเปิดเผย ชอนกวางจิน หลานชายของอดีตประธานสโมสรกีฬา ได้เข้ามาตีสนิทนักกีฬาในฐานะผู้สนับสนุนทีมวอลเลย์บอล และชักจูงให้ อิมดงฮยอน (รับบทโดย มุนซูยอง) และ โจซองอุค (รับบทโดย ชินจูฮวาน) เข้าไปพัวพันกับการพนันผิดกฎหมายที่เกี่ยวกับการล้มการแข่งขัน แต่เมื่อ พัคมินโฮ ผู้ที่ล่วงรู้แผนการ พยายามจะแจ้งตำรวจ ชอนกวางจิน กลับใช้ อิมดงฮยอน และ โจซองอุค ในการสังหาร พัคมินโฮ ก่อนที่จะนำศพไปฝังอย่างอุกอาจในสุสานของย่าตัวเอง สร้างความตกตะลึงแก่ผู้ชมอย่างมาก นอกจากนี้ อุบัติเหตุรถยนต์ที่ พัคดงซู (รับบทโดย คิมกิชอน) บิดาของพัคมินโฮ ประสบ ก็เป็นฝีมือของ ชอนกวางจิน เช่นกัน
เมื่อโฉมหน้าของคดีที่ถูกปกปิดมานานถูกเปิดเผย ชอนกวางจิน พยายามจะทำลายหลักฐาน โดยการพยายามช่วงชิงศพของ พัคมินโฮ จากเจ้าหน้าที่ตำรวจ และลงมือสังหาร อิมดงฮยอน และ โจซองอุค เพื่อปิดปาก ซึ่งเผยให้เห็นธาตุแท้ที่โหดเหี้ยมของเขา โชคดีที่ คิมโดกิ สามารถเข้าขัดขวางแผนการลักพาตัว พัคดงซู ของ ชอนกวางจิน ไว้ได้ทัน แต่เมื่อ ชอนกวางจิน เห็นฝีมือการต่อสู้ที่ไม่ธรรมดาของ คิมโดกิ เขากลับวางแผนการร้ายขึ้นอีกครั้ง สร้างความตึงเครียดให้แก่ผู้ชม
คิมโดกิ จึงตัดสินใจเผชิญหน้ากับ ชอนกวางจิน เพื่อชิงศพของ พัคมินโฮ กลับคืนมา เมื่อ คิมโดกิ และทีม 'Rainbow Heroes' เดินทางไปยังโรงเรียนร้างที่ ชอนกวางจิน นัดหมายไว้ สิ่งที่รอคอย คิมโดกิ ไม่ใช่ ชอนกวางจิน แต่เป็นกลุ่มนักเลงปริศนาที่ถูกเรียกมา คิมโดกิ เพิ่งตระหนักว่า ชอนกวางจิน กำลังเปิดการพนันสดแบบเรียลไทม์ โดยใช้เขาเป็น 'ผู้เล่น' และที่น่าสะอิดสะเอียนยิ่งกว่านั้น คือ ชอนกวางจิน ได้พนันเงินกับความตายของ คิมโดกิ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความละโมบที่ไร้มนุษยธรรมของเขา ทำให้เกิดความโกรธแค้นในหมู่ผู้ชม
คิมโดกิ จึงต้องต่อสู้กับเหล่านักฆ่าที่พุ่งเข้ามาอย่างดุเดือด เพื่อตามหา ชอนกวางจิน ที่กำลังแอบดูและหัวเราะอย่างเยาะเย้ยอยู่ที่ใดที่หนึ่งในโรงเรียนร้าง ฉากแอ็คชั่นการต่อสู้ด้วยมือเปล่าของ คิมโดกิ ที่เต็มไปด้วยการโจมตีอันดุเดือด ชวนให้ลุ้นระทึกอย่างยิ่ง การต่อสู้ในโถงทางเดินที่ใช้เพียงแป๊บเดียวก็สามารถกวาดล้างศัตรูจนราบคาบ สร้างความดื่มด่ำในอารมณ์อย่างที่สุด ในขณะเดียวกัน โกอึน (รับบทโดย พโยฮเยจิน), หัวหน้าชเว (รับบทโดย จางฮยอกจิน) และหัวหน้าพัค (รับบทโดย แบยูรัม) ก็ได้ตัดการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตของโรงเรียน ทำให้การถ่ายทอดสดการพนันของ ชอนกวางจิน หยุดชะงักลง เพิ่มความสะใจให้กับผู้ชม
ยิ่งไปกว่านั้น ในช่วงท้ายของเรื่อง คิมโดกิ ได้เผชิญหน้ากับ ชอนกวางจิน แบบตัวต่อตัว และปล่อยหมัดแห่งการแก้แค้นที่ไร้ความปรานี แม้จะอยู่ในสภาพสะบักสะบอม ชอนกวางจิน กลับไม่แสดงความสำนึกผิด แต่กลับพยายามติดสินบน คิมโดกิ ด้วยเงิน ทำให้ คิมโดกิ รู้สึกตกตะลึงยิ่งกว่าเดิม คิมโดกิ ได้มอบบทเรียนอันเจ็บปวดให้ ชอนกวางจิน โดยการให้เขารับความทุกข์ทรมานที่เหยื่อได้รับกลับไปเสียเอง โดยนึกถึง พัคดงซู ผู้เป็นพ่อที่ป่วยเป็นอัลไซเมอร์แต่ไม่เคยลืมลูกชายอย่าง พัคมินโฮ เลย
คิมโดกิ โยนทรายใส่ ชอนกวางจิน ที่กำลังดิ้นรนอยู่ในหล่มโคลน พร้อมกล่าวว่า "ลองคิดดูให้ดีนะ ก่อนที่เม็ดทรายจะร่วงหล่นหมด ว่ามีสักคนในโลกนี้ไหม ที่จะจดจำแกอย่างแท้จริง" ซึ่งคำพูดนี้ทำให้ผู้ชมรู้สึกซาบซึ้งใจอย่างสุดซึ้ง
สุดท้าย คิมโดกิ ได้ร่วมเดินทางไปส่ง พัคดงซู เพื่อนำอัฐิของ พัคมินโฮ ไปยังที่ฝังเป็นครั้งสุดท้าย เป็นการปิดฉากคดีปริศนาเดียวของ 'Taxi Driver' ที่เคยเป็นจุดเริ่มต้นของเรื่องราวทั้งหมด และทำให้ผู้ชมต่างน้ำตาคลอ
ชาวเน็ตเกาหลีต่างชื่นชมฉากแอ็คชั่นของอีเจฮุนว่าเป็น "ตำนาน" และยกย่องการปิดฉากคดีที่สะเทือนอารมณ์ "รอคอยตอนต่อไปไม่ไหวแล้ว!"