แฟนคลับ 'TREASURE' กังวล! สมาชิก 3 คนไม่ร่วมงานแฟนไซน์ที่เซี่ยงไฮ้ - ส่อเอี่ยวปมขัดแย้งจีน-ญี่ปุ่น?
ทำเอาแฟนๆ ชาว TREASURE (เทรเชอร์) เป็นห่วงกันยกใหญ่ เมื่อมีรายงานว่า สมาชิกบางส่วนไม่สามารถเข้าร่วมงานแฟนไซน์ที่เซี่ยงไฮ้ ประเทศจีน ได้ ซึ่งงานดังกล่าวจัดขึ้นเพื่อฉลองการปล่อยมินิอัลบั้มชุดที่สาม 'LOVE PULSE' ที่มีกำหนดจัดขึ้นในวันที่ 20 นี้
โดยสมาชิกที่ยืนยันว่าไม่สามารถเข้าร่วมงานได้คือ โยชิ (Yoshi), อาซาฮิ (Asahi) และ ฮารุโตะ (Haruto) ทำให้เกิดการตั้งคำถามและแสดงความกังวลขึ้นอย่างมาก
ผู้จัดงานอย่าง MAKESTAR ได้ออกแถลงการณ์ผ่านโซเชียลมีเดียอย่างเป็นทางการ ชี้แจงว่า "เนื่องด้วยเหตุสุดวิสัย ทำให้สมาชิกบางส่วนไม่สามารถเข้าร่วมงานได้" พร้อมกล่าวขอโทษกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และระบุว่าจะมีการแจ้งมาตรการชดเชยเพิ่มเติมผ่านทางอีเมล แต่ไม่ได้ลงรายละเอียดเกี่ยวกับสาเหตุของการไม่เข้าร่วมงานที่แน่ชัด
อย่างไรก็ตาม ในหมู่แฟนคลับเริ่มมีการตีความว่า การไม่เข้าร่วมงานครั้งนี้อาจมีความเชื่อมโยงกับความขัดแย้งทางการทูตระหว่างจีนและญี่ปุ่นที่กำลังเป็นประเด็นร้อนอยู่ในขณะนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อสมาชิกที่ไม่ได้เข้าร่วมงานนั้น มีอาซาฮิและฮารุโตะที่เป็นชาวญี่ปุ่น รวมไปถึงโยชิ ซึ่งแม้จะเป็นชาวเกาหลี แต่ก็เป็นชาวเกาหลีเชื้อสายญี่ปุ่นรุ่นที่ 4 ทำให้ประเด็นนี้ยิ่งถูกพูดถึงมากขึ้น
เหตุการณ์นี้ไม่ได้เกิดขึ้นกับ TREASURE เพียงกลุ่มเดียว เมื่อเร็วๆ นี้ วงเกิร์ลกรุ๊ป LE SSERAFIM (เล เซราฟิม) ก็ประสบปัญหาเดียวกัน เมื่อแฟนไซน์ที่เซี่ยงไฮ้ถูกยกเลิกกะทันหัน
LE SSERAFIM มีกำหนดจัดงานแฟนไซน์ฉลองการปล่อยซิงเกิลแรกที่เซี่ยงไฮ้ในวันที่ 14 ที่ผ่านมา แต่ผู้จัดงาน MAKESTAR ได้ประกาศยกเลิก โดยให้เหตุผลว่า "หลังจากการพิจารณาอย่างรอบคอบกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เนื่องจากเหตุสุดวิสัย" โดยไม่ได้ระบุสาเหตุของการยกเลิกที่ชัดเจนเช่นกัน
LE SSERAFIM มีสมาชิกชาวญี่ปุ่น 2 คนคือ ซากุระ (Sakura) และ คาซึฮะ (Kazuha) ในบรรดาสมาชิกทั้งหมด 5 คน ทำให้ในวงการเริ่มมีการคาดการณ์ว่า สถานการณ์ความขัดแย้งที่ทวีความรุนแรงขึ้นระหว่างจีนและญี่ปุ่น อาจส่งผลกระทบต่อการเข้าร่วมงานของสมาชิกที่เป็นชาวญี่ปุ่น
ในอดีต แม้จะมีความเข้มงวดในนโยบาย 'จำกัดเกาหลี' (Hallyu Ban) แต่การจัดแฟนมีตติ้งหรือแฟนไซน์ขนาดเล็กก็ยังคงดำเนินไปได้ค่อนข้างเสรี แต่การที่เหตุการณ์ที่กระทบต่องานที่มีสมาชิกชาวญี่ปุ่นรวมอยู่ด้วยเริ่มเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้เกิดความกังวลว่าอาจจะมีการเคลื่อนไหวในลักษณะ 'จำกัดเกาหลี-ญี่ปุ่น' (Korea-Japan Ban) เกิดขึ้นจริงหรือไม่
เมื่อการมีสมาชิกหลากหลายสัญชาติเป็นเรื่องปกติในวงการ K-Pop การที่ความขัดแย้งทางการทูตเริ่มส่งผลกระทบโดยตรงต่อกิจกรรมของศิลปินเช่นนี้ คาดว่าจะเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อภาพรวมของกิจกรรม K-Pop ในประเทศจีนต่อไป
ชาวเน็ตเกาหลีแสดงความเห็นใจต่อแฟนๆ และศิลปิน โดยมองว่าสถานการณ์นี้น่าเห็นใจ และหวังว่าปัญหานี้จะคลี่คลายโดยเร็ว บางส่วนแสดงความคิดเห็นว่า "สงสารทั้งศิลปินและแฟนคลับเลยค่ะ" และ "หวังว่าจะกลับมาเจอแฟนๆ ได้เร็วๆ นะ"